ขิง: หัวช่วยให้หวัดและไอได้อย่างไร
ขิงเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรคหวัด น้ำมันหอมระเหยที่มีสารอาหารและไมโครองค์ประกอบจำนวนมากสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันของคุณในกรณีเจ็บป่วย สารเผ็ดของขิงยังช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและแบคทีเรียต่อต้าน
นี่คือวิธีที่ขิงสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันของคุณด้วยความเย็น
ขงจื๊อได้ยกย่องพลังการรักษาของรากมหัศจรรย์แห่งเอเชียแล้ว เพราะสิ่งนี้ตอบโต้โรคทางกายมากมาย นอกจากปัญหาการย่อยอาหารคลื่นไส้หรือตะคริวแล้วระบบภูมิคุ้มกันยังสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงในช่วงฤดูหนาว
- ขิงช่วยบรรเทาอาการหวัดและไอ นี่คือสาเหตุที่สารอาหารจำนวนมากและสารรสเผ็ดที่สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน
- เมื่อคุณป่วยร่างกายของคุณต้องการวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก ขิงมีวิตามินซีแคลเซียมเหล็กแมกนีเซียมและโพแทสเซียมจำนวนมากและช่วยให้ร่างกายของคุณในกระบวนการบำบัด
- วิตามินส่วนใหญ่พบในหัวขิงสด สารที่ดีต่อสุขภาพในขิงอยู่ใต้ผิวหนัง ดังนั้นซื้อรากขิงอินทรีย์สดและบริโภคในเปลือกของพวกเขา
- น้ำมันหอมระเหยและสารฉุนที่อยู่ในหัวช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ซึ่งหมายความว่าเชื้อโรคจะถูกกรองออกจากร่างกายของคุณเร็วขึ้น เมื่อไอจึงมีแบคทีเรียอยู่ในเยื่อเมือกน้อยลง
- ขิงและโชก้าอลที่อยู่ในขิงก็มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดเช่นปวดกล้ามเนื้อในช่วงเย็น
ชาขิงบรรเทาอาการหวัด
หากคุณเป็นหวัดขอแนะนำให้ใช้ขิงในรูปแบบของชาหรือน้ำขิง ชาขิงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและสามารถนำมากลั่นกับสารเพื่อสุขภาพอื่น ๆ เช่นน้ำผึ้งหรือมะนาว
- ในการเตรียมชาขิงคุณต้องไม่ต้มหัวด้วยน้ำเดือด เพื่อให้ได้สารที่ดีต่อสุขภาพในชาคุณต้องต้มรากขิง
- ขั้นแรกให้ตัดขิงออกเป็นชิ้นกว้างประมาณสองเซนติเมตร ปอกขิงถ้าคุณยังไม่ได้ซื้อขิงอินทรีย์ใด ๆ
- หั่นขิงฝาน
- ใส่น้ำ 500 มล. ในกระทะและนำไปต้ม เมื่อน้ำเดือดให้ใส่ขิงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าลงไปในน้ำ
- ปล่อยให้น้ำเคี่ยวบนความร้อนต่ำอีกสิบนาที
- ตอนนี้ของเหลวควรจะเย็นลงจนถึงอุณหภูมิห้อง เมื่อชาเย็นตัวแล้วคุณสามารถกรองมันได้
- ปรับแต่งชาด้วยน้ำผึ้งหรือมะนาว
- ในช่วงที่มีอาการหวัดหรือไอขอแนะนำให้ดื่มชาขิงวันละสองถึงสามแก้ว